การตีความเจตนาของสัญญาหย่า ศาลมุ่งเน้นจากข้อความหรือสิ่งใด

การตีความเจตนาของสัญญาหย่า ศาลมุ่งเน้นจากข้อความหรือสิ่งใด

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยแบ่งสินสมรส ได้แก่ บ้านเลขที่ 335 ที่ดินโฉนดเลขที่ 10653 ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 เนื้อที่ 1 งาน พร้อมสิ่งปลูกสร้างบ้านเลขที่ 426/2 รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า และรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน ให้แก่โจทก์กึ่งหนึ่ง หากไม่สามารถแบ่งได้ให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ 1,863,000 บาท หรือนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกันคนละกึ่งหนึ่ง

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 เนื้อที่ 1 งาน อันเป็นสินสมรสของโจทก์และจำเลย ให้โจทก์และจำเลยได้ส่วนเท่ากัน โดยให้แบ่งระหว่างโจทก์และจำเลย หากการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำได้หรือจะเสียหายมากนัก ก็ให้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวโดยวิธีประมูลราคากันระหว่างโจทก์และจำเลย ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้นำที่ดินแปลงดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินที่ขายได้แบ่งกัน ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้เป็นพับ คำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้นำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 เนื้อที่ 1 งาน มาแบ่งให้แก่โจทก์ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ส่วนที่เกิน 120 บาท แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยไม่โต้แย้งกันรับฟังได้ว่า เมื่อปี 2548 โจทก์และจำเลยอยู่กินฉันสามีภริยาและจดทะเบียนสมรสกันวันที่ 8 มกราคม 2552 มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ เด็กหญิง พ. โจทก์และจำเลยมีสินสมรส คือ บ้านเลขที่ 335 ที่ดินโฉนดเลขที่ 10653 บ้านเลขที่ 426/2 ปลูกสร้างบนที่ดินเนื้อที่ 1 งาน เป็นที่ดินส่วนหนึ่งตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) เลขที่ 2226 ซึ่งมีชื่อนาย จ. เป็นเจ้าของ และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า 1 คัน เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 โจทก์และจำเลยจดทะเบียนหย่า และวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 โจทก์และจำเลยทำหนังสือแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวพร้อมลงลายมือชื่อในหนังสือแบ่งทรัพย์สิน

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ขอให้นำที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 มาแบ่งให้แก่โจทก์ได้หรือไม่ เห็นว่า หนังสือแบ่งทรัพย์สินมีข้อความว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 10653 บ้านเลขที่ 335 และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ให้ตกเป็นของโจทก์ ส่วนบ้านเลขที่ 426/2 ตกเป็นของจำเลยโดยไม่ได้กล่าวถึงที่ดินเนื้อที่ 1 งานตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 ซึ่งเป็นสินสมรสและเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 426/2 ด้วย แต่เมื่อพิจารณาถึงพฤติการณ์ที่โจทก์เบิกความว่า หลังจากจดทะเบียนหย่าแล้ว โจทก์และจำเลยเคยพูดคุยเกี่ยวกับการแบ่งสินสมรสโดยจำเลยบอกว่าจะแบ่งบ้านที่จังหวัดน่าน รถและที่ดินให้แก่โจทก์สอดคล้องกับที่ระบุไว้ตามหนังสือแบ่งทรัพย์สินประกอบกับข้อความท้ายหนังสือแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวระบุว่าหนังสือแบ่งทรัพย์สินฉบับนี้ร่างขึ้นโดยทั้งสองฝ่ายยินยอมตามรายการที่บันทึกข้างต้นและจะไม่มีการเรียกร้องสิทธิใด ๆ หลังจากนี้ไม่ว่าจะกรณีใด โดยโจทก์และจำเลยมีบ้าน 2 หลังอันเป็นสินสมรสเป็นที่อยู่อาศัยและตามหนังสือแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวระบุเพียงว่าให้บ้านเลขที่บ้านเลขที่ 335 ตกเป็นของโจทก์ ส่วนบ้านเลขที่ 426/2 ตกเป็นของจำเลย โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านทั้งสองหลัง ทั้งได้ความจากจำเลยว่า จำเลยเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรหลังจากจดทะเบียนหย่า ทำให้เชื่อได้ว่าโจทก์และจำเลยทำหนังสือแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวโดยมีเจตนาเพื่อแบ่งทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันหรือสินสมรสให้แล้วเสร็จไปทั้งหมดโดยให้โจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าของบ้านคนละหลังรวมถึงการเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์มั่นคงต่อไปในอนาคตด้วย การที่บ้านเลขที่ 426/2 ที่ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินเนื้อที่ 1 งาน อันเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 ยังมีชื่อนาย จ. เป็นเจ้าของโดยยังไม่มีการแบ่งแยกเอกสารสิทธิออกมาว่าที่ดินเนื้อที่ 1 งานดังกล่าวเป็นที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่เท่าไร ทำให้มีเหตุผลน่าเชื่อว่าโจทก์และจำเลยไม่อาจระบุถึงรายละเอียดของที่ดินเนื้อที่ 1 งานซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 426/2 ในหนังสือแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวได้ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 171 บัญญัติว่าในการตีความการแสดงเจตนานั้น ให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนหรือตัวอักษร จึงไม่น่าเชื่อว่า ในการทำหนังสือแบ่งทรัพย์สินดังกล่าวโจทก์และจำเลยจะมีเจตนาให้คงเหลือที่ดินเนื้อที่ 1 งานตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 ไว้โดยมิได้ตกลงแบ่งกันให้แล้วเสร็จไปในคราวเดียวโดยไม่มีเหตุผล ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่าโจทก์และจำเลยตกลงยกบ้านเลขที่ 426/2 รวมถึงที่ดินเนื้อที่ 1 งาน เป็นที่ดินส่วนหนึ่งของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านให้แก่จำเลยตามหนังสือแบ่งทรัพย์สินแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้นำที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ดังกล่าวมาแบ่งให้แก่โจทก์อีก ที่ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

สรุป

ตามหนังสือแบ่งทรัพย์สินมีข้อความว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 10653 และบ้านเลขที่ 335 ให้ตกเป็นของโจทก์ ส่วนบ้านเลขที่ 426/2 ตกเป็นของจำเลย โดยไม่ได้กล่าวถึงที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 ซึ่งเป็นสินสมรสและเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 426/2 ด้วย แต่เมื่อโจทก์และจำเลยมีบ้าน 2 หลัง เป็นสินสมรสเป็นที่อยู่อาศัย และจำเลยเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรหลังจากจดทะเบียนหย่า ประกอบกับข้อความท้ายหนังสือแบ่งทรัพย์สินระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่มีการเรียกร้องสิทธิใด ๆ หลังจากนี้ไม่ว่าจะกรณีใด เชื่อว่าโจทก์และจำเลยทำหนังสือแบ่งทรัพย์สินโดยมีเจตนาเพื่อแบ่งทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกันหรือสินสมรสให้แล้วเสร็จไปทั้งหมด โดยให้โจทก์และจำเลยต่างเป็นเจ้าของบ้านคนละหลังรวมถึงการเป็นเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์มั่นคงต่อไปในอนาคตด้วย ทั้งที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 มีชื่อ จ. เป็นเจ้าของโดยยังไม่มีการแบ่งแยกเอกสารสิทธิ ทำให้มีเหตุผลน่าเชื่อว่าโจทก์และจำเลยไม่อาจระบุถึงรายละเอียดของที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเลขที่ 426/2 ในหนังสือแบ่งทรัพย์สินได้ ซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 171 บัญญัติว่า ในการตีความการแสดงเจตนานั้น ให้เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้อยคำสำนวนหรือตัวอักษร จึงไม่น่าเชื่อว่า ในการทำหนังสือแบ่งทรัพย์สินโจทก์และจำเลยจะมีเจตนาให้คงเหลือที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 2226 ไว้โดยมิได้ตกลงแบ่งกันให้แล้วเสร็จไปในคราวเดียวโดยไม่มีเหตุผล เชื่อว่าโจทก์และจำเลยตกลงยกบ้านเลขที่ 426/2 รวมถึงที่ดินเนื้อที่ 1 งาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านให้แก่จำเลยตามหนังสือแบ่งทรัพย์สินแล้ว

สำนักงานกฎหมายปรัชญาเศรษฐ์ทนายความ Copyright © 2021. All rights reserved.